ความเชื่อโบราณกับต้นไม้ที่ไม่ควรปลูกในบ้าน
ต้นชบา หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมต้นไม้ที่มีดอกสวยงามกลับถูกห้ามไม่ให้ปลูกในบริเวณบ้าน นั่นเป็นเพราะว่าในสมัยโบราณดอกชบามักจะถูกนำมาร้อยเป็นมาลัยเพื่อไว้ใช้สวมคอนักโทษที่กำลังจะถูกประหารชีวิต คนโบราณจึงเชื่อกันว่า หากนำต้นชบามาปลูกไว้ในบริเวณ จะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยเกิดคดีความ ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นอัปมงคลแก่ชีวิต
ต้นงิ้ว ตามหลักความเชื่อทางศาสนา ต้นงิ้ว คือต้นไม้ที่อยู่ในนรก เป็นบทลงโทษสำหรับผู้ที่ทำบาปผิดลูกผิดเมียผู้อื่น จะต้องถูกให้ปีนต้นงิ้วที่มีหนามแหลมคมทั้งต้น นั่นทำให้ต้นงิ้วกลายเป็นสัญลักษณ์ของการมีชู้ คนโบราณจึงถือว่าเป็นต้นไม้อัปมงคล ไม่ควรนำมาปลูกในบริเวณบ้าน
ลั่นทม แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนชื่อจาก ลั่นทม เป็น ลีลาวดี แล้ว แต่ความเชื่อที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่สมัยโบราณไม่ได้เปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ซึ่งสาเหตุที่คนโบราณไม่นิยมปลูกต้นไม้ชนิดนี้ไว้ในบ้านก็เพราะว่าชื่อของ ต้นลั่นทม นั้นใกล้เคียงกับคำว่า ระทม ที่มีความหมายแปลว่า ทุกข์โศก เศร้าใจ เสียใจ บ้านไหนปลูกไว้ก็จะมีแต่ความทุกข์ตามไปด้วย
มะรุม ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะเก็บผลมะรุมมาทำเป็นอาหารรับประทานในบ้าน แต่เพราะชื่อ มะรุม ที่มีเสียงคล้ายคำว่า มารุม ทำให้คนโบราณถือว่า หากปลูกต้นมะรุมไว้ในบ้าน จะมีแต่ปัญหามารุมเร้า มีแต่ความวุ่นวาย บ้านเรือนจะไม่มีความสุข หากจะปลูก ก็ควรปลูกไว้นอกรั้วบ้าน
เต่าร้าง คนโบราณเชื่อว่า ต้นเต่าร้าง ไม่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่มีสามี ภรรยา ที่แต่งงานกันแล้ว นั่นก็เพราะคำว่า “ร้าง” นั้นสื่อถึงการหย่าร้าง การห่างเหิน บ้านไหนปลูกความรักก็จะสั่นคลอน ครอบครัวแตกแยก
ต้นนางแย้มป่า เป็นความเชื่อของคนโบราณบวกกับเรื่องศาสนา ที่เชื่อว่า ต้นนางแย้มป่า เป็นต้นไม้ที่เป็นที่สิงสู่ของภูตผีปีศาจ หากบ้านใดนำไปปลูกไว้ในบริเวณบ้าน คนในบ้านจะเจ็บป่วย ขวัญเสีย หวาดกลัว และไม่มีความสุข
อย่างไรก็ตามความเชื่อเหล่านี้เป็นความเชื่อที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ บางครั้งในปัจจุบันอาจมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ แต่จริงๆ แล้วความเชื่อส่วนใหญ่มักจะแฝงไว้ด้วยกุศโลบายบางอย่างเสมอ อย่างเช่น การห้ามไม่ให้ปลูกต้นไม้ใหญ่ไว้ใกล้บ้านนั่นก็เพราะรากของต้นไม้
จะไชเข้าไปที่ฐานของบ้าน อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ หรือหากมีพายุใหญ่เข้ามา กิ่งไม้ หรือต้นไม้ที่หักโค่นอาจทำให้บ้านได้รับความเสียหาย เป็นต้น ดังนั้น การเลือกปลูกต้นไม้ควรคิดถึงหลักเหตุผล มองไปในอนาคตเป็นหลัก รวมถึงควรยึดเอาตามความรู้สึกสบายใจของผู้อยู่อาศัยด้วย