การทำความสะอาดที่นอน ของเรานั้นไม่ใช่เพียงแค่การนำผ้าปูที่นอนไปซักเป็นประจำและเปลี่ยนผ้าปูที่นอนบ่อยๆเพียงเท่านั้นแต่ที่นอนของเรานั้น
ก็ควรจะต้องมีการทำความสะอาดบ่อยๆเช่นเดียวกันซึ่งบางคนอาจจะทำความสะอาด 1-2 เดือนต่อครั้งหนึ่งสำหรับที่นอนเพื่อที่จะได้มีการขจัดคราบต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นจากเนื้อไข้ของเราหรือแม้แต่อาจจะเกิดขึ้นจากสิ่งสกปรกอย่างเช่นฝุ่นละอองหรือในส่วนต่างๆได้อย่างไรก็ตามในบทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีการทำความสะอาดที่นอนว่ามีวิธีการอะไรบ้าง
สำหรับวิธีการแลกน้ำเป็นวิธีการที่ง่ายมากนั่นก็คือเพื่อป้องกันไม่ให้ที่นอนของเราสกปรกนอกจากที่เราจะมีผ้าปูที่นอนแล้วโลกควรจะใช้ผ้าปูไวนิลปูที่นอนก่อนหลังจากนั้นค่อยปูผ้าปูที่นอนซื้อที่การนี้จะเป็นการป้องกันที่ดีไม่ให้คราบสิ่งสกปรกต่างๆเช่นค่าประจำเดือนหรือค่าปัสสาวะตกลงไปบนที่นอนได้ และที่สำคัญผ้าคลุมไวนิลนี้ยังสามารถซักทำความสะอาดได้บ่อยๆได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตามถ้าหากว่าที่นอนของใครอาจจะมีปัญหาการเกิดคราบเช่นคราบน้ำนมหรือแม้แต่คราบน้ำชากาแฟ
เนื่องจากอาจจะเป็นคนที่นิยมทานอาหารบนที่นอนก็อาจจะทำให้เกิดคราบต่างๆเหล่านี้ได้วิธีการแก้ไขปัญหาคราบต่างๆเหล่านี้นั้นทำได้ง่ายๆนั่นก็คือการนำน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำมะนาวเสร็จเรียบร้อยแล้วนำน้ำที่เราผสมแล้วใส่ลงไปในขวดสเปรย์นำมาฉีดพ่นบริเวณที่นอนของเรา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงบริเวณที่มีคราบต่างๆเหล่านี้ทิ้งไว้ประมาณสัก 5 นาทีเสร็จเรียบร้อยแล้วนำผ้าสะอาดชุบน้ำบิดหมาดๆมาซักทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่ หลังจากนั้นก็อย่าลืมนำที่นอนไปทำการตากแดดเพื่อให้แสงแดดนั้นช่วยฆ่าเชื้อโรคและยังช่วยขจัดกลิ่นมะนาวและน้ำส้มสายชูออกจากที่นอนหลังจากนั้นก็นำที่นอนมาใช้งานได้เหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามสำหรับที่นอนของใครมีคราบผึ้งเป็นรอยด่างดำหรือแม้แต่เชื้อราขึ้นบนที่นอนนั้นคุณยังสามารถทำความสะอาดได้โดยที่ไม่จำเป็นที่จะต้องทิ้งที่นอนแล้วซื้อที่นอนใหม่ลองนำที่นอนของคุณไปทำความสะอาดด้วยการตากแดดนอกจากนี้ยังควรที่จะนำเอาข้าวหอมผสมน้ำอุ่นมาเช็ดทำความสะอาดตรงบริเวณที่มีคราบดำหรือเชื้อรา
โดยนำฟองน้ำไปชุบแล้วถูตรงบริเวณที่เกิดคราบหลังจากนั้นก็นำน้ำยาล้างจานผสมน้ำเปล่าทำความสะอาดอีกครั้งหนึ่งเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้นำผ้าเปียกมาเช็ดทำความสะอาดบริเวณที่เราทำความสะอาดอีกรอบหนึ่งเมื่อทำความสะอาดตามขั้นตอนเบื้องต้นเสร็จเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดความทำความสะอาดให้ทั่วที่นอนหลังจากที่นอนแห้งเรียบร้อยแล้วก็นำที่นอนกลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามถ้าหากวิธีการต่างๆเหล่านี้ยังไม่สามารถทำความสะอาดได้ก็แนะนำว่าควรจะต้องมีการเปลี่ยนที่นอนใหม่เพราะถ้าหากว่าเรานอนบนที่นอนที่มีแต่คราบเชื้อโรคต่างๆก็อาจจะทำให้เราเป็นโรคภูมิแพ้ได้
สนับสนุนเนื้อหาโดย ทางเข้า ufabet มือ ถือ